ตร.ไซเบอร์แนะ 9 ข้อป้องกัน เตือนคนถือบัตรเครดิต!!


ตร.ไซเบอร์แนะ 9 ข้อป้องกัน เตือนคนถือบัตรเครดิต!!


วันที่ 12 ก.พ.2566 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกบช.สอท. ประชาสัมพันธ์ เตือนภัยบัตรเครดิตถูกหักเงินชำระค่าโฆษณาสื่อสังคมออนไลน์โดยไม่ทราบสาเหตุ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ มีผู้เสียหายหลายรายแจ้งว่าบัตรเครดิตถูกหักเงินไปชำระค่าโฆษณาสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น กรณีผู้เสียหายถูกหักเงินจากบัตรเครดิตไปชำระค่าโฆษณา TikTok กว่า 7,000 บาท หรือผู้เสียหายอีกกรณีถูกหักเงินจากบัตรเครดิตไปชำระค่าโฆษณาFacebook กว่า 18,000 บาท

ซึ่งทั้งสองกรณีผู้เสียหายยืนยันว่าไม่ได้ทำธุรกรรมดังกล่าว ไม่เคยผูกบัตรเครดิตไว้กับแอปพลิเคชันใดๆ และในการถูกหักเงินออกจากบัตรเครดิตก็ไม่ได้รับรหัส OTP เพื่อยืนยันการทำธุรกรรม รวมไปถึงไม่พบการพยายามเข้าถึงระบบ (Login) ของแอปพลิเคชันดังกล่าวด้วย นั้น ที่ผ่านมา กองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) ได้ทำการสนับสนุนตรวจสอบหาสาเหตุของการหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าวในอีกหลายรูปแบบ




เช่น กรณีมิจฉาชีพอ้างเป็นสถาบันการเงินหลอกให้กดลิงก์อัปเดตข้อมูล ทำให้เงินในบัญชีผู้เสียหายสูญหายไป และยังเป็นหนี้บัตรเครดิตอีกจำนวนมาก หรือกรณีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นพนักงาน บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต โทรศัพท์แจ้งผู้เสียหายว่าได้รับค่าสินไหมทดแทนจากการติดเชื้อโควิด-19 ขอข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร รหัส OTP เป็นต้น

โดยจากการตรวจสอบ และวิเคราะห์พบว่ามักจะเกิดได้จาก 2 กรณีหลัก คือ กรณีแรกเกิดจากการที่ผู้เสียหายเผลอให้ข้อมูลบัตรกับมิจฉาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการถูกหลอกลวงให้เข้าไปกรอกข้อมูลทางการเงินผ่านเว็บไซต์ปลอม หรือแอพพลิเคชั่นปลอม หรือการให้บัตรเครดิตไปกับผู้อื่นเพื่อทำธุรกรรมการเงินในชีวิตประจำวัน แล้วบุคคลนั้นนำข้อมูลที่ได้ไปใช้แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ เป็นต้น

กรณีที่สองอาจจะเกิดจากการที่ผู้เสียหายกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม หรือลิงก์โฆษณาต่างๆ ที่ฝังมัลแวร์ดักรับข้อมูลของมิจฉาชีพ ทั้งนี้ต้องนำโทรศัพท์ของผู้เสียหายแต่ละรายมาตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากสาเหตุใด เช่น ตรวจสอบการใช้งานโทรศัพท์ว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายได้ทำธุรกรรมใดหรือไม่ หรือผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชันใดบ้าง เป็นต้น




โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนให้พึงระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลเลขหลังบัตรเครดิต หรือเดบิตร (CVV) หรือรหัสเพื่อยืนยันความปลอดภัยในการชำระค่าสินค้าหรือบริการ ผ่านเว็บไซต์ หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยมีแนวทางป้องกัน 9ข้อ ดังต่อไปนี้

1.หากไม่จำเป็นไม่ควรใช้บัตร ไม่เปิดเผยข้อมูลบัตรให้ผู้อื่นล่วงรู้ และอย่าให้บัตรคลาดสายตาเมื่อต้องใช้บัตร ป้องกันการถูกลักลอบนำข้อมูลไปใช้

2.หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือออนไลน์ ที่ต้องกรอกข้อมูลเลขด้านหน้าบัตร และรหัส 3 ตัวหลังบัตร (CVV)

3.หลีกเลี่ยงการกดลิงก์ หรือติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก ไม่รู้ที่แหล่งมา ควรติดตั้งผ่าน AppStore หรือ Playstore เท่านั้น

4.ระมัดระวังการกรอกข้อมูลหมายเลขบัตรผ่านเว็บไซต์ปลอม หรือแอปพลิเคชันปลอม ที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมาให้เหมือนกับเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันจริง เพื่อหลอกเอาข้อมูล โดยหากต้องการเข้าไปที่เว็บไซต์ใด ให้พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ด้วยตัวเองเท่านั้น

5.หากต้องการซื้อสินค้า หรือบริการประเภทดังกล่าว ควรใช้บัตรเดบิต โดยการโอนเงินเข้าบัตรเพื่อชำระสินค้าหรือบริการเท่าที่จะชำระโดยเฉพาะ

6.ตั้งค่าการแจ้งเตือนการทำรายการผ่านข้อความสั้น (SMS) หรือแอปพลิเคชันไลน์ (Line)

7.ไม่บันทึกรายละเอียดบัตรไว้กับเบราว์เซอร์ เช่น Chrome, Firefox หรือ Safari โดยเด็ดขาด

8.ควรนำแผ่นสติกเกอร์ทึบแสงปิดรหัส 3 ตัวด้านหลังบัตร (CVV) แล้วจำรหัส 3 ตัวดังกล่าวเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้จ่ายประจำวัน

9.หมั่นตรวจสอบรายการบัญชีอย่างสม่ำเสมอ หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งไปยังสถาบันการเงิน เพื่อทำการอายัดบัตร และปฏิเสธการชำระเงินค่าสินค้า หรือบริการทางออนไลน์โดยทันที



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : Jalq
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 49.228.230.57

49.228.230.57,,49-228-230-0.24.nat.tls1a-cgn02.myaisfibre.com ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
ถอนเงินออกจากธนาคารให้หมด เวลาไปธนาคารขอดูบัตร ขอข้อมูลทุกอย่าง บอกให้ถอดหน้ากากแสกนใบหน้า ยังไม่พอ ให้เซนต์ชื่อซ้ำไปมาไม่รู้กี่ครั้งอ้างเซนต์ไม่เหมือน ทำเป็นเคร่งครัด แต่ไม่รับผิดชอบเวลาโดนมิจฉาชีพเจาะข้อมูล โยนความผิดให้ประชาชนซะงั้น ถ้าประชาชนถอนเงินออกหมดและ้วปิดบัตรเครดิตให้หมด ธนาคารก็เจ๊ง แต่ก็ดีกว่าประชาชนเอาเงินไปฝากแต่ธนาคารอำนวยความสะดวกให้โจรดูดเงินประชาชน ใครมีเงินเยอะเอาไปซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน ซื้อทอง ลงทุนค้าขาย ดีกว่าฝากธนาคารไร้ความรับผิดชอบ ตำรวจก็พื่งไม่ได้


[ วันอาทิตย์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 17:14 น. ]
คุณ : สีม่วง
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 1.47.26.248

1.47.26.248,,1.47.26.248 ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]
เห้นด้วยกับ คห 1 เอาเงินสดไปโอนเข้าบช ให้นอื่น พันกว่า บาท ต้องขอดูบัตร เอาบัตรปชช เดินไปเดินมา ทำบ้าอะไรก็ไม่รู้ ทำกูเซ็งน่ะ เงินกูแท้ๆ


[ วันอาทิตย์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 18:41 น. ]
คุณ : ลูกพระเจ้าตาก
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 119.42.92.203

119.42.92.203,,119.42.92.203 ความคิดเห็นที่ 3 [อ้างอิง]
พอเถอะเบื่อ


[ วันอังคาร ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 21:24 น. ]
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์