Apple เปิดตัว M1 Pro และ M1 Max ชิปทรงพลังประหยัดพลังงาน
ยกระดับสถาปัตยกรรม M1 ที่เหนือชั้นอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดย ชิป M1 Pro มีประสิทธิภาพที่น่าทึ่ง แต่ยังคงประหยัดพลังงานชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม ในขณะที่ชิป M1 Max นั้นพุ่งทะยานไปอีกขั้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
Apple เปิดตัวชิป M1 Pro และ M1 Max เหนือกว่าชิป M1 เดิมขนาดไหน ?
ส่วน GPU ในชิป M1 Pro นั้นเร็วกว่าชิป M1 สูงสุด 2 เท่า ในขณะที่ชิป M1 Max เร็วกว่าชิป M1 สูงสุดถึง 4 เท่า ช่วยให้ผู้ใช้ระดับโปรสามารถรับมือกับเวิร์กโฟลว์ที่เน้นกราฟิกหนักๆ ได้สบาย
ชิป M1 Pro และ M1 Max นำสถาปัตยกรรม System on Chip (SoC) มาอยู่ระบบระดับโปรเป็นครั้งแรก ชิปทั้งคู่มาพร้อมหน่วยความจำแบบรวมที่รวดเร็ว ประสิทธิภาพสูง และยังประหยัดพลังงานดีเยี่ยม รวมถึงมีแบนด์วิดท์และขนาดหน่วยความจำเพิ่มมากขึ้นด้วย
ชิป M1 Pro และ M1 Max ยังมาพร้อมมีเดียเอนจิ้นที่ดียิ่งขึ้น พร้อมด้วยตัวเร่งความเร็วที่สร้างมาโดยเฉพาะสำหรับ ProRes เพื่อการประมวลผลวิดีโอระดับโปร ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดนี้เข้าด้วยกัน M1 Pro และ M1 Max จึงกลายเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ Apple เคยสร้างมา
ชิป M1 Pro: เหนือชั้นทั้งประสิทธิภาพและความสามารถ
ชิป M1 Pro มี GPU สูงสุด 16 คอร์ ที่เร็วกว่าชิป M1 สูงสุด 2 เท่า และเร็วกว่ากราฟิกในตัวของชิปแล็ปท็อป PC รุ่นล่าสุดแบบ 8-core สูงสุด 7 เท่า1 ซึ่งเมื่อเทียบกับ GPU แบบแยกที่ทรงพลังสำหรับโน้ตบุ๊ก PC แล้ว ชิป M1 Pro ก็ยังมีประสิทธิภาพสูงกว่า ในขณะที่ใช้พลังงานน้อยกว่าสูงสุด 70% นอกจากนี้ชิป M1 Pro ยังสามารปรับแต่งให้มีหน่วยความจำแบบรวมที่รวดเร็วได้สูงสุด 32GB พร้อมด้วยแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงสุด 200GB/s ช่วยให้ครีเอทีฟอย่างศิลปิน 3D และนักพัฒนาเกมสามารถทำอะไรๆ ได้มากขึ้น
ชิป M1 Max ชิปที่ทรงพลังที่สุด แรงสุด สำหรับโน้ตบุ๊กระดับโปร
ชิป M1 Max ยังพลิกโฉมเวิร์กโฟลว์ที่เน้นกราฟิกหนักๆ อย่างการเรนเดอร์ไทม์ไลน์ที่ซับซ้อนใน Final Cut Pro ได้เร็วขึ้นสูงสุด 13 เท่าเมื่อเทียบกับ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นก่อนหน้า
ชิป M1 Max มีการเชื่อมต่อภายในชิปด้วยแบนด์วิดท์ที่สูงกว่า และมีอินเทอร์เฟซหน่วยความจำมากกว่าชิป M1 Pro ถึง 2 เท่า จึงมีแบนด์วิดท์สูงสุดที่ 400GB/s หรือเกือบ 6 เท่า เมื่อเทียบกับแบนด์วิดท์หน่วยความจำของชิป M1 จึงสามารถปรับแต่งหน่วยความจำแบบรวมที่รวดเร็วให้กับชิป M1 Max ได้สูงสุดถึง 64GB และเมื่อรวมกับประสิทธิภาพที่ยากจะหาใครเทียบ ชิป M1 Max จึงเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาสำหนับโน้ตบุ๊กระดับโปร
มีเดียเอนจิ้นที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มาพร้อมกับ ProRes
ชิป M1 Pro และ M1 Max มาพร้อมมีเดียเอนจิ้นที่ออกแบบโดย Apple เพื่อเร่งความเร็วให้กับการประมวลผลวิดีโอพร้อมกับยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ให้นานที่สุด และชิป M1 Pro ยังมีตัวเร่งความเร็วที่สร้างมาโดยเฉพาะสำหรับ Codec วิดีโอระดับมืออาชีพอย่าง ProRes จึงสามารถเล่นวิดีโอ ProRes ระดับ 4K และ 8K คุณภาพสูงได้หลายสตรีมโดยใช้พลังงานเพียงนิดเดียว ส่วนชิป M1 Max นั้นทรงพลังยิ่งกว่า เพราะสามารถเข้ารหัสวิดีโอได้เร็วกว่าชิป M1 Pro สูงสุด 2 เท่า และมีตัวเร่งความเร็ว ProRes มาให้สองตัว ทำให้ MacBook Pro® ใหม่ที่มาพร้อมชิป M1 Max สามารถแปลงวิดีโอ ProRes ใน Compressor ได้เร็วขึ้นอย่างชัดเจนสูงสุด 10 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro 16 นิ้ว รุ่นก่อนหน้า
-Neural Engine แบบ 16-core สำหรับเร่งความเร็วให้การเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกล้อง
-เอนจิ้นการแสดงผลใหม่ที่ช่วยให้เชื่อมต่อจอภาพภายนอกได้หลายจอ
-มีตัวควบคุม Thunderbolt 4 ในตัวเพิ่มมาเพื่อแบนด์วิดท์ I/O ที่สูงขึ้น
-โปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพแบบเฉพาะของ Apple พร้อมด้วย Neural Engine ใช้การประมวลผลวิดีโอด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อยกระดับคุณภาพของภาพ ทำให้วิดีโอที่ได้จากกล้องในตัวคมชัดยิ่งขึ้น และมีสีผิวที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
-ระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด อย่าง Secure Enclave ล่าสุดของ Apple, ระบบการบูทที่ปลอดภัยโดยใช้ฮาร์ดแวร์ยืนยัน และเทคโนโลยีป้องกันการเจาะช่องโหว่ขณะรันไทม์
ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในการเปลี่ยนผ่านสู่ Apple Silicon
macOS และแอปพร้อมปลดปล่อยความสามารถของชิป M1 Pro และ M1 Max
macOS Monterey สร้างมาเพื่อรองรับการทำงานของชิป M1 Pro และ M1 Max ทั้งในด้านประสิทธิภาพอันเหนือชั้น ความสามารถระดับโปรที่พร้อมสร้างปรากฏการณ์ รวมถึงแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานเหลือเชื่อ และการออกแบบ Monterey มาเพื่อ Apple Silicon ก็ช่วยให้ Mac พร้อมทำงานในทันทีหลังจากพักเครื่อง ในขณะที่ทั้งระบบก็รวดเร็วและตอบสนองฉับไว นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีสำหรับนักพัฒนาอย่าง Metal ที่ทำให้แอปรีดประสิทธิภาพจากชิปใหม่ได้เต็มที่ ส่วน Core ML ก็ผ่านการปรับแต่งมาอย่างลงตัว เพื่อใช้ประโยชน์จาก Neural Engine อันทรงพลัง ส่งผลให้โมเดลการเรียนรู้ของระบบทำงานได้เร็วขึ้น และมีการใช้ข้อมูลเวิร์กโหลดของแอประดับโปรเพื่อช่วยให้ macOS สามารถมอบหมายงานแบบหลายเธรดไปยังคอร์ CPU ได้อย่างเหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมด้วยคุณสมบัติการจัดการพลังงานอันล้ำสมัยที่คอยจัดสรรงานระหว่างคอร์ประสิทธิภาพและคอร์ประหยัดพลังงานอย่างชาญฉลาดเพื่อที่สุดของความเร็วและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่
การผนึกกำลังระหว่าง macOS กับชิป M1 Pro, M1 Pro และ M1 Max ยังทำให้การรักษาความปลอดภัยอยู่ในชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นระบบการบูทที่ปลอดภัยโดยใช้ฮาร์ดแวร์ยืนยัน เทคโนโลยีป้องกันการเจาะช่องโหว่ขณะรันไทม์ รวมถึงการเข้ารหัสแบบอินไลน์ที่รวดเร็วสำหรับไฟล์ ยิ่งกว่านั้นแอป Mac ของ Apple ทั้งหมดยังได้รับการปรับแต่งมาอย่างลงตัวและสามารถทำงานได้เลยบน Apple Silicon ทั้งยังมีแอปและปลั๊กอิน Universal ให้ใช้อีกกว่า 10,000 รายการ ส่วนแอป Mac ที่ยังไม่ได้รับการอัปเดตเป็นแบบ Universal ก็สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นโดยอาศัยเทคโนโลยี Rosetta 2 ของ Apple และผู้ใช้ก็สามารถใช้แอป iPhone และ iPad บน Mac ได้โดยตรง
ชิป M1 Pro และ M1 Max จะอยู่ใน Macbook Pro 2021 รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้วเครดิตแหล่งข้อมูล : it24hrs