‘ชัยวุฒิ’ ลั่น โทษหนัก แฮกเกอร์เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างผิดกฏหมาย


‘ชัยวุฒิ’ ลั่น โทษหนัก แฮกเกอร์เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างผิดกฏหมาย


‘ชัยวุฒิ' ลั่น โทษหนัก เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างผิดกฏหมาย กรณี ‘9 near' นับถอยหลังปล่อยข้อมูลคนไทย 55 ล้านคน ในอีก 5 วัน

วันที่ 31 มีนาคม 66 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณี ผู้ใช้งานบัญชี "9near" ได้โพสต์ขายข้อมูลที่อ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการ บนเว็บไซต์ Bleach Forums โดยอ้างว่าได้มาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในไทย (Somewhere in government) และโพสต์ ตัวอย่างไฟล์ ซึ่งมี ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ และเลขประจําตัวประชาชน รวมทั้งมีการโพสต์ ลักษณะข่มขู่หน่วยงานและประชาชนในวงกว้าง

โดยเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 66 เว็บไซต์ 9near.org (https://9near.org/) ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับบัญชี 9near โพสต์ ขายข้อมูลบนเว็บไซต์ Bleach Forums) ได้แอบอ้างใส่ชื่อ นายปริญญา หอมเอนก (อ.ปริญญาฯ) เป็นผู้สนับสนุน (Sponsored By ...) พร้อมทั้ง นํา Youtube Video Clip สัมภาษณ์ อ.ปริญญาฯ รายการ Digital Life Spring ช่อง Spring News ใส่บนเว็บไซต์ด้วย ในเว็บไซต์ มีลิงก์ดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูล (!! Download !!) ซึ่งเป็นไฟล์ข้อมูล รายชื่อ วันเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ โดยมีการปิดบังในลักษณะ xxxx ไม่แสดงข้อมูลทั้งหมด ส่วนด้านล่างของ เว็บไซต์ได้ระบุข้อความในลักษณะข่มขู่ให้ผู้คิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไปก่อนวันที่ 5 เม.ย. 16.00 น. เวลาประเทศไทย ไม่เช่นนั้นจะทําการเผยแพร่ข้อมูล นั้น

ทั้งนี้ อ.ปริญญาฯ ได้เข้าแจ้งความกับกองบังคับการ ปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แล้ว ในวันเดียวกัน ด้านผู้ประกาศข่าว นายสรยุทธ สุทัศนจินดา ได้โพสต์ข้อความใน facebook ส่วนตัว ว่าได้รับข้อความ SMS ข้อมูลส่วนบุคคลของตน ประกอบด้วย เลขบัตรประชาชน 13 หลัก, วันเดือนปีเกิด , ที่อยู่ , เบอร์มือถือ จาก 9near

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า กระทรวงดีอีเอส ได้ติดต่อไปยังผู้ให้บริการโดเมน เว็บไซต์ 9 near เพื่อปิดเว็บแต่ยังไม่สามารถทำได้เพราะผู้ให้บริการอยู่ในต่างประเทศ กระทรวงฯ จึงใช้อำนาจตามกฎหมาย โดยอยู่ระหว่างทำการตรวจสอบผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบมีช่องทางการสื่อสารจริง แต่ไม่มีข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของประชาชน คาดว่าแรงจูงใจของผู้กระทำความผิดคือความต้องการเงินจากการเรียกค่าไถ่ข้อมูลและการนำข้อมูลไปขาย กระทรวงฯได้ประสานกับสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เข้าติดตามและดำเนินคดี โดยขอให้ประชาชนที่พลว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลได้รับผลกระทบขอให้เข้าแจ้งความดำเนินคดี

นายชัยวุฒิ ย้ำถึงแนวทางการดําเนินการของกระทรวงดิจิทัลฯ ว่า

1) ดศ. ได้ประสานผู้ให้บริการ domain name สําหรับเว็บไซต์ 9near.org (Namesilo, LLC) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการในต่างประเทศ เพื่อขอปิดกั้นเว็บไซต์ 9near.org ตั้งแต่วันพุธที่ 29 มี.ค. 66 เวลา 19.00 น. เนื่องจากมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น และระบุข้อความในลักษณะข่มขู่ให้ผู้คิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไป ซึ่งเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศทําให้ประชาชนตื่นตระหนก ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือ ดําเนินการจากผู้ให้บริการ

2) ดศ. อยู่ระหว่างดําเนินการขอคําสั่งศาลตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งอาจเข้าข่าย

มาตรา 14 (2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทาง เศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่น ตระหนกแก่ประชาชน หรือ

มาตรา 20 (2) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามท่ี กําหนดไว้ในภาค 2 ลักษณะ 1 หรือลักษณะ 1/1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

ในขณะเดียวกัน ดศ. อยู่ระหว่างประสานผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศ (เช่น AIS True NT) เพื่อดําเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ดศ. อยู่ระหว่างประสานสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เพื่อสอบถามข้อมูลว่ามีหน่วยงานภาครัฐแจ้งว่ามีข้อมูลรั่วไหลหรือไม่
ทั้งนี้ ความผิดที่เกี่ยวข้องมีโทษสูง โดยความผิดตาม พรบ. คอมพิวเตอร์ ฯ โทษสูงสุด จําคุก 5 ปี และการนําข้อมูล ส่วนบุคคลไปใช้อย่างผิดกฎหมาย เข้าข่ายผิด พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อาจถูกจําคุก 1 ปี หรือปรับ 1 ล้านบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ต่อ 1 กรรม หรือต่อผู้เสียหาย 1 คน ได้ ซึ่งทําให้คนร้ายอาจถูกลงโทษจําคุกเป็นร้อยปีได้ ขึ้นกับข้อเท็จจริง และข้อมูลที่นําไปใช้กระทําผิดกฎหมายหรือเผยแพร่ทําให้ผู้อื่นเสียหาย

3) ดศ. ได้ประสานสํานักงานตํารวจแห่งชาติเพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง และดําเนินการหาตัวผู้กระทําความผิด

"ได้สั่งการให้เร่งจัดการอย่างเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ประสานตํารวจหาหลักฐานและตัว ผู้กระทําความผิดมาลงโทษ และขอฝากเตือนไปยังผู้ที่จะนําข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ผิดกฎหมาย ระวังโทษหนัก ทั้งจําคุกทั้งปรับ" นายชัยวุฒิกล่าว

ติดต่อ call center กระทรวงดิจิทัลฯ 1212 หรือ สายด่วน ตํารวจไซเบอร์ 1441



‘ชัยวุฒิ’ ลั่น โทษหนัก แฮกเกอร์เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างผิดกฏหมาย


‘ชัยวุฒิ’ ลั่น โทษหนัก แฮกเกอร์เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างผิดกฏหมาย

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

  1. ไขข้อสงสัยเหตุใด ตร.จับกุมตัว จ.ส.ท.แฮกเกอร์ ช้า!!
  2. เปิดคำสารภาพ จ.ส.ท.แฮกเกอร์ อ้างหวังให้สังคมตระหนักเรื่องนี้?
  3. เผยผลสอบปากคำ จ่าสิบโท แฮกเกอร์9near อ้างซื้อข้อมูลมาจาก..?
  4. เปิดเบาะแส จ่าสิบโท แฮกเกอร์ 9near จับตาโดนไล่ออก!!
  5. ชัยวุฒิเตือนผู้ส่งต่อข้อมูลระวังมีความผิด เผยความคืบหน้าแฮกเกอร์9near
  6. รู้แล้วข้อมูลคนไทยหลุด55ล้านคน ที่แท้แฮกข้อมูลจากแอปนี้?
  7. รวบแล้ว! แฮกเกอร์9nearที่แท้ทหารสิบเอก อ้างทำไปเพราะ...?
  8. รู้แล้ว! มือแฮกข้อมูลคนไทย ที่แท้คือใคร เผยอยากลองวิชา
  9. รู้ตัวแฮกเกอร์9nearแล้ว! ดีอีเอสรับหลายหน่วยงานรัฐมีช่องโหว่
  10. สรยุทธร้องเฮ้ย!! ข้อมูลส่วนตัวหลุดเพียบเลขบัตร-ที่อยู่-เบอร์โทรชัดมาก
  11. ผบ.ตร. เผยยังจับจ่าสิบโท แฮกเกอร์ 9Near ไม่ได้
  12. ศาลสั่งปิดเว็บไซต์ 9near.org เผยแพร่ข้อมูลชื่อคนไทย 55 ล้านชื่อ
  13. 9nearเลิกเผยแพร่ข้อมูลคนไทย 55 ล้านคน เปลี่ยนเตรียมแฉสปอนเซอร์

  14. >> ดูทั้งหมด :ตามติด 9near แฮกเกอร์ข้อมูลคนไทย 55 ล้านคน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์