โดรนเซลฟี่มาแล้ว ไม้เซลฟี่หลบไป

เดี๋ยวนี้หมวยเล็กเดินทางไปเที่ยวไม่ว่าจะเป็นในหรือต่างประเทศก็จะเจอนักท่องเที่ยวใช้ “ไม้เซลฟี่” ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน แต่เทคโนโลยีสมัยนี้ไปเร็วมากค่ะ นอกจาก “ไม้เซลฟี่” แล้วเดี๋ยวนี้เรามี “โดรนเซลฟี่” ที่สามารถบินร่อนรอบตัวเจ้าของ ติดตามไปถ่ายภาพแบบ 360 องศาทุกที่แล้วค่ะ ในท้องตลาดทั่วโลกบริษัทที่โด่งดังเรื่องการผลิตโดรนติดตามถ่ายภาพก็คือ “DJI Phantom 4” และ “3DR Solo” สองบริษัทนี้จะเชี่ยวชาญระบบการให้โดรนติดตามที่สิ่งต้องการและถ่ายภาพวัตถุกลางอากาศ ระบบนี้เรียกง่ายๆว่า “Follow Me” ช่วยให้ผู้ใช้ที่ต้องการเป็นเจ้าของโดรนสามารถควบคุมมันได้อย่างง่าย เพราะโดรนจะสามารถบินติดตามตัวผู้ใช้ได้เอง โดยที่เขาหรือเธอไม่จำเป็นต้องมีทักษะการขับอากาศยานเพื่อที่จะควบคุมโดรนเลย โดรนรุ่นแรกๆของโลกจะมีขนาดใหญ่และหนักค่ะ 

เปิดช่องให้กับบริษัทหัวไสผลิตโดรนที่มีขนาดเล็กลง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วไป และที่ล้ำมากๆคือ “ซาโน่ โดรน” (Zano Drone) และ “โอนาโกฟราย” (Onagofly) โดรนถ่ายภาพซึ่งมีขนาดเพียงแค่หนึ่งฝ่ามือเท่านั้นเอง ส่วนโดรนสำหรับเซลฟี่ที่กำลังมาแรงที่สุดตอนนี้มีชื่อว่า “ฮอฟเวอร์ คาเมรา” (Hover Camera) ผลิตโดยบริษัท “ซีโร ซีโร โรโบติกส์” (Zero Zero Robotics) บริษัทที่มีฐานอยู่ในประเทศจีน มีนายเอ็ม คิว หวัง เป็นผู้ก่อตั้งพร้อมควบตำแหน่งซีอีโอด้วย นิตยสารด้านเทคโนโลยีออนไลน์ “จิซแม็ค” ของสหรัฐบอกว่า เจ้าโดรนตัวนี้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อผู้ใช้งานที่เป็นชาวบ้านทั่วไปเพราะมีขนาดเล็ก พกพาง่ายและน้ำหนักเบาเพียงแค่ 238 กรัมเท่านั้น“

ทำให้ชาวอเมริกันหากจะซื้อ “ฮอฟเวอร์ คาเมรา” มาเล่นที่บ้านก็ไม่ต้องไปลงทะเบียนการมีโดรนในครอบครองกับรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งออกกฎให้ผู้ที่เป็นเจ้าของโดรนน้ำหนักตั้งแต่ 250 กรัมจนถึง 25 กิโลกรัมมารายงานการครอบครองโดรนให้รัฐบาลทราบ “ฮอฟเวอร์ คาเมรา” มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ใบพัดของโดรนจะอยู่ในกรงที่ทำด้วยเส้นใย “คาร์บอน” (Carbon fiber) หรือ “ไฟเบอร์แกรไฟต์” ซึ่งมีคุณสมบัติ แข็งแรง น้ำหนักเบา ทนต่อสารเคมีและทนต่ออุณหภูมิสูง ที่ต้องทำกรงใส่ใบพัดไว้เช่นนี้ก็เพราะทางบริษัทกลัวว่า “ผู้ใช้จะนิ้วขาด” ซะก่อนตอนเรียกเก็บแล้วใช้มือจับโดรนโดยตรง นอกจากนี้ “ฮอฟเวอร์ คาเมรา” ยังสามารถพับได้พกพาไปได้ทุกที่อีกด้วย การควบคุมทำได้จากการโปรแกรมที่ติดตั้งในสมาร์ทโฟน โดรนสามารถบินร่อนถ่ายภาพได้ 360 องศา ในความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดิโอได้โดยมีความจุมากถึง 4 K ในระดับเหนือพื้นดินมากถึง 50 เมตร โดยที่มีระบบป้องกันภาพสั่น มันยังรู้จักหลบหลีกสิ่งกีดขวางเพื่อติดตามเจ้าของอีกด้วย เจ้าโดรนตัวนี้มันสามารถติดตามเจ้าของไปได้ทุกที่ขณะบินร่อน ไม่ใช่เพราะใช้ระบบ GPS นะคะ แต่เป็นเพราะมันมีเซ็นเซอร์จากทั้งกล้องด้านหน้าและด้านล่างที่มีโปรแกรมของ “Qualcomm Snapdragon 801 2.3 GHZ” ซึ่งจะช่วยจดจำลักษณะใบหน้าและรูปร่างของเจ้าของได้ แต่ก็นั่นแหละ ข้อเสียของมันคือไม่มีระบบ GPS ติดตามตัว เวลามันร่วงที่ไหนนี่ต้องเดินตามหากันเองค่ะ“

ปัจจุบันนี้ทางผู้ผลิตยังไม่ได้ออกตัวว่า “โดรนฮอฟเวอร์ คาเมรา” จะราคาเท่าไรแน่ แต่เห็นว่า ต้องการจะให้มีราคาไม่เกิน 600 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21,000 บาท) เมื่อก่อนหมวยเล็กจะรู้จักโดรนหรืออากาศยานไร้คนขับ ในฐานะอุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายภาพในพื้นที่สงคราม พื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือถ่ายภาพมุมสูง แต่เดี๋ยวนี้โดรนถูกทำให้เล็กลง ปรับคุณสมบัติให้เหมาะกับการใช้งานของผู้คนทั่วไป แม้ว่าโดรนบางตัวตอนนี้จะราคาหลายหมื่นหลายแสน แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อีกไม่นานโดรนคงกลายเป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันเกลื่อน เพราะตอนนี้ก็เห็นว่า เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง “แอมะซอน” และบริษัทขนส่งสินค้าเช่น “ดีเอชแอล” กำลังหันมาใช้โดรนในการส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคอีกด้วย . 

คอลัมน์ : มุดรั้วเพื่อนบ้าน โดย “หมวยเล็ก” 

ขอบคุณภาพจาก Gizmag“