Facebook เปลี่ยนมาใช้จำนวน Views เป็นตัวชี้วัด

ปรับเก่ง...ปรับแล้ว ปรับต่อ! Facebook เปลี่ยนมาใช้จำนวน Views เป็นตัวชี้วัดหลักของประสิทธิภาพการโพสต์
.
อย่างที่ทราบกันดีว่า Facebook สังคมออนไลน์มีการปรับเปลี่ยน รวมถึงอัปเดตอัลกอริทึมใหม่ตลอดว่า ทั้งนี้ เพื่อคงความเสถียรของการใช้งาน และเพื่อปรับฟังก์ชันให้สอดรับกับเทรนด์ต่าง ๆ อยู่เสมอ และล่าสุด Facebook ประกาศการเปลี่ยนแปลงสำคัญสำหรับครีเอเตอร์ที่สร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม โดยจะเปลี่ยนมาใช้จำนวนวิว (Views) เป็นตัววัดหลักของประสิทธิภาพคอนเทนต์ (Primary Metric) มีผลทั้งโพสต์เนื้อหา, Stories, Reels และวิดีโอ

Facebook ระบุว่า หลังจากนี้ Views เป็นการนับว่าวิดีโอหรือ Reels ถูกเล่นกี่ครั้ง, โพสต์หรือรูปภาพถูกปรากฏบนหน้าจอกี่ครั้ง วิธีวัดผลด้วย Views นี้เป็นแนวทางเดียวกับ Instagram ที่เพิ่งปรับเปลี่ยนไป เมื่อช่วงสิงหาคม 2024 ที่ผ่านมา

Facebook ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงที่เหล่า ครีเอเตอร์ ทั้งหลาย ต้องรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงนั้น มีประเด็ใจนหลักๆ ดังนี้

• สำหรับวิดีโอหรือ Reels วิธีวัด Views ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

• แต่ Facebook จะเลิกใช้ตัววัดผลการเล่นซ้ำ (Replay) ทั้งหมดจะนับรวมใน Views เลย

• Post ที่เป็นข้อความ, รูปภาพ และสตอรี Views จะแทนที่ Impression โดยนับจำนวนครั้งที่คอนเทนต์นั้นปรากฏบนหน้าจอ รวมการแสดงผลซ้ำ เช่น หากมีการกดดูรูปนั้นซ้ำหลายครั้งในหนึ่งวัน Views ก็จะนับเพิ่มตามด้วย นั่นหมายความว่า การนับของ Views จะสูงกว่าการนับแบบ Impression เดิมนั่นเอง

[ ตัวแสดงผลหลังบ้าน Facebook เปลี่ยนไป ? ]
นอกจากนี้ Facebook จะเพิ่มตัววัดผลของวิดีโอเพิ่มเติมได้แก่ Minutes Viewed (ดูไปกี่นาทีแล้ว) และ Average Minutes Views (เวลาเฉลี่ยนเป็นนาทีที่ดูวิดีโอ) ซึ่งถือเป็นแทนที่ตัววัดผลเดิม Watch Time และ Average Watch Time

สิ่งที่ต่างกันคือ Watch Time นับจำนวนเวลารวมที่วิดีโอหรือ Reels ถูกเล่น รวมการเล่นซ้ำที่ระดับวินาที ส่วน Minutes Viewed วัดเหมือนกันแต่ปัดเป็นระดับนาที นั่นเอง

ตัววัดผลประสิทธิภาพโพสต์แบบใหม่นี้จะเริ่มแสดงใน Insights ของ Meta Business Suite และ Professional Dashboard ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า รวมทั้งตัววัดประสิทธิภาพโฆษณา

นั่นหมายความ บรรดา ครีเอเตอร์ ทั้งหลายต้องรีบปรับตัว และทำเนื้อหา ทำคอนเทนต์ต่างๆให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพื่อมาสู้กับอัปเดตอัลกอริทึมใหม่ มาลุยกับการเปลี่ยนแปลงทุกๆครั้งของ Facebook ต่อไป