ป่วน! เว็บไซต์ล่มทั่วโลก พบปัญหาจาก Fastly เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ CDN

ความคิดเห็นที่ 3 [อ้างอิง]

ที่นี่ใช้ได้ก็โอเคแระ 55

ความคิดเห็นที่ 4 [อ้างอิง]

อนาคตถ้าเรายิ่งผูกกับ IT มากๆ ไม่สำรองข้อมูลหรือสำรองชีวิตที่ไม่มี IT แต่ละประเทศอาจกลายเป็นอัมพาต คล้ายๆ กับ ยุคของโควิด สูงสุดคืนสู่สามัญ ในมุมมองของช้าพเจ้า ไม่ว่าจะเป็นการปกครองประเทศ เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการปกครอง อุปกรณ์ อาวุธ IT อื่นๆ จากการดูหนังอิงประวัติศาสตร์ ของจีน อินเดีย ยุโรป ถ้าในหนัง หรือซีรีย์ มีบางส่วนเนื้อหาหากเกิดมาจากความเป็นจริง ข้าพเจ้าก็คิดว่าในส่วนการปกครองในอดีต ประเทศต่างๆ เหล่านั้น ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับขอบใจ ในชาติยุโรปนะ หากถ้าไม่เข้ามายึดดินแดนในช่วงนั้น ณ ปัจจุบันประเทศต่างๆ เหล่านั้นก็อาจจะล่มสลาย คงไม่มีวันยืนอยู่แถวหน้าอย่างในวันนี้ เพราะดูจากการปกครองในอดีต กดขี่ ประชาชน ผู้หญิง ทำในสิ่งที่ไร้ซึ่งคุณธรรรม เริ่มจากครอบครัวผู้ปกครอง ขุนนาง ไล่ลงมาจนถึงประชาชน ซึ่งไร้อารยธรรมจริงๆ คือชีวิตความเป็นอยู่เรียนแบบคล้ายสัตว์ป่า ไม่ใช่มนุษตย์ที่มีมันสมอง เนื้อสังคมครอบครัว เครือญาติ ผู้หญิงเป็นแค่เครื่องมือในการผลิตมนุษตย์ หรือแม้แต่การแบ่ง วรรณ ชนชั้นต่างๆ ซึ่งแบ่งแยกว่าเป็นชนชั้นต่ำ แต่ก็ยังไปนอนกับชนชั้นต่ำ แล้วก็ไม่ยินยอมให้ยกย่องเชิดหน้าชูตา แย่งชิงกันในครอบครัว สิ่งเหล่านี้ เมื่อมามองย้อนไปในอดีต ดูแล้วคล้ายกับไม่ใช่คน แต่ไม่ทราบว่าใครคิดสิ่งเหล่านี้ออกมา การกดขี่ฝ่ายหญิงไม่ทราบเริ่มแรกเกิดจากความคิดของผู้ใด แต่เราอย่าลืมว่าผู้หญิงเป็นเพศ แม่ ซึ่งสามารถอบรมสั่งสอนลูกและผู้หญิงก็อาจจะดุกว่าผู้ชาย เพราะเพสแม่จะหวงไข่ รักและปกป้องลูก เมื่อสังคมยึดแบบใด ผู้หญิงก็จะเคร่งครัดและกลายเป็นการเอาตัวรอด ใครร้ายก็จะมีชีวิตอยู่ ฆ่ากันเองในครอบครัว ซึ่งเมื่อครอบครัวผู้ปกครอง ขุนนาง ต่างๆ ไม่มีความสงบสุข แย่งชิงกัน สรุปก็คือครอบครัวพัง แล้วจะมาปกครองประเทศได้อย่างไร ไม่มีใครยึด สุดท้ายก็ต้องล่มสหลายอยู่ดี เด็กที่เกิดไม่ได้พัฒนาเผ่าพันธ์ การข้ามสายพันธ์น่าจะดีกว่า จะดูฉลาด รูปร่างหน้าตาดี การไม่ยอมข้ามสายพันธ์กลับหลายเป็นไปตามกฎของเมลเดล ยุคปัจจุบันและอนาคต ในมุมมองของข้าพเจ้า อาจต้องนำตัวชี้วัดต่างๆ ขึ้นมาใช้วัด ถ้าประเทศใดที่กดขี่เพศหญิงไว้ ไม่เปิดให้เสมอภาค ไม่พัฒนาบุคลากรซึ่งเป็นเพศหญิงที่มีจำนวนเยอะและเป็นเพศแม่ ไม่นำมาช่วยพัฒนาประเทศ ไม่ใช้ให้เต็มศักยภาพ ข้าพเจ้าคิดว่า ไปๆ ประเทศเหล่านั้นก็จะล่มสลาย ถ้าไม่มีใครไปยึดและเปลี่ยนการปกครอง หรือเปลี่ยนวัฒนธรรม ถ้ายึดติดกับสิ่งเดิมๆ โดยไม่ยอมเปลี่ยนคิดว่าคนในยุคอดีตที่คิดค้นการปกครองวัฒนธรรม ที่ดิบและเถื่อน คนในยุคปัจจุบันที่ได้รับความรู้ สามารถใช้ตัวชี้วัดวัดได้ไปวัด ถ้าไม่อาจหาญเปลี่ยนแปลง ประเทศต่างๆ เหล่านั้นก็จะล่มสลายไปเองในอนาคต การปกครองผู้นำต้องอยู่ในศิลธรรมอันดี ฉลาด เก่ง รู้เท่าทันความดี ความเลว เลือกสิ่งที่เหมาะที่ควรกับสภาพบ้านเมืองของตัวเอง คนทำงานที่ต้องการความซื่อสัตย์ในบางตำแหน่งอาจต้องเปิดโรงเรียนเอง ตั้งแต่วัยเยาว์จนโต หล่อหลอมให้มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ เก่ง ฉลาด รู้เท่าทันสิ่งดีและไม่ดี ชั่งน้ำหนักเป็น คือไม่ใช่ไม่ฉกฉวยหรือไปซื้อตัวมา ในส่วนที่ไม่จำเป็น หรือจำเป็นปานกลาง ต้องเกิดจากการสอบแข่งขัน ไม่ส่งเสริมเครือญาติเป็นเกณท์ หญิงชายเปิดโอกาสเท่าเทียมกัน ต้องใช้ประชากรให้เต็มศักยภาพ IT แต่ก็ต้องมีแบคอัพเป็นเอกสาร ไม่ควรเสี่ยง มีการชี้วัดความสามารถ ไม่ใช่เพื่อการลงโทษ แต่เพื่อให้ความดีความชอบตามความเหมาะสมและใช้เพื่อการพัฒนาพร้อมกับเพื่อบริหารความเสี่ยงต่างๆ สิ่งใดที่คิดว่าเป็นการได้เปรียบ ฉกฉวยเอามา ซื้อคนมา กดขี่คนไม่ว่าคนของใคร ชาติใด สิ่งเหล่านี้เมื่อไม่ซื่อตรงระยะยาวล้วนจะมีฟิตแบ็คกลับกลายเป็นสิ่งที่เป็นจุดอ่อนทำให้ประเทศอ่อนแอร์ ข้าพเจ้าคิดว่าการปกครองที่ดี มีคุณธรรม ตรงไปตรงมา ไม่ยึดถือพวกพ้อง ในระยะยาวประเทศจะเจริญอย่างแท้จริงและยั่งยืน อีกทั้งมองเป็นชนชาติอื่นๆ เป็นมิตร ไม่ใช่เป็นศัตรูที่จะเอารัดเอาเปรียบ สิ่งเหล่านี้จะทำให้โลกอยู่ร่วมกันได้ดีเยี่ยม อย่างหลากหลายวัฒนธรรม ไม่จำเป็นต้องแข่งขันมากมายหรือแด่งแย่งกันคล้ายสัตย์ป่า มีการแบ่งปันแลกเปลี่ยนใครมีศักยภาพด้านใด ก็อย่าไปแย่งหรือแข่งขัน เราก็แค่ทำใช้ในประเทศ สิ่งที่เรามีวัตถุดินเยอะ สามารถแข่งขันได้ ก็ส่งออก หลีกเลี่ยงการไปยื้อแย่งในสิ่งเดียวกัน ข้าพเจ้าคิดว่าความเป็นอยูในลักษณะนี้จะทำให้ยั่งยืนได้อย่าวยาวนานและมีความสุข

ความคิดเห็นที่ 5 [อ้างอิง]

ความซื่อสัตย์ มีคุณธรรม เกิดจากการหล่อหลอมตั้งแต่วัยเยาว์ และเกิดกับคนที่ไม่ต้องอดหยาก ยากไร้ ขาดทุกสิ่งทุกอย่าง และก็ไม่ได้เกิดจากการรณรงค์ ซึ่งยิ่งประชาสัมพันธ์มากอาจกลายเป็นดาบสองคม กลายเป็นคนยิ่งรับรู้ว่ามีคนทำลักษระนี้มากก็ยิ่งคิดว่ามีคนทำมากมาย อาจรวมตัวร่วมกันทำเพิ่มขึ้นอีก แบบร่วมแรงร่วมใจทำกันเป็นทีม ยิ่งยุค IT อาจยิ่งทำได้ง่าย การดูแลประเทศอาจต้องร่วมกันหลายฝ่าย คณะบริหารต่างๆ ตระกูลพ่อค้าใหญ่ๆ ต่างๆ ซึ่งต้องสามัคคีร่วมแรงร่วมใจต่อกัน หากฝ่ายใดที่ยึดติดแต่ประโยชน์ส่วนตนไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม คณะผู้บริหารต้องกล้าปรับเปลี่ยนและลดบทบาทคนไม่ดี ไม่มีคุณธรร ให้มีอำนาจลดลงหรือเปลี่ยนตัว ไม่ทู่ซี้ดึงดันปล่อยปละละเลย ถ้าไม่สามารถทำได้อนาคตก็คือการล่มสลายอยู่ดี อำนาจต้องเกิดจากคนส่วนใหญ่ยอมรับ นับถือและศรัทธา ไม่ใช่เกิดจาก พวกพ้อง หรืออาวุธ หรือส่งเสริมดำให้เป็นขาย สิ่งที่ไม่จริงก็คือสิ่งไม่จริง ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ความเมตตา แบ่งปัน การกระจายรายได้ ให้ทุกคนได้ทำงานอย่างเต็มศักยภาพต่อประเทศ ข้าพเจ้าคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ประเทศมั่นคงอย่างแท้จริง